ตามสไตล์ทริปของเรา เน้นเที่ยว ไม่เน้นระยะทาง^^ เลยวางเส้นทางไว้สั้นๆ มือใหม่ก็ปั่นได้สบาย เราเน้นเที่ยวชิลๆมากกว่าทรมานบันเทิง เพราะช่วงนี้เที่ยงๆอากาศร้อนมาก เลยเอารถมาจอดที่วัดสมาน ถ้าเรามาก่อน 9 โมง ที่จอดรถเยอะมาก หาที่ร่มจอดได้เลย แต่ถ้าหลัง 9 โมง รถของคนที่มาเที่ยววัดจะเริ่มเข้ามาเยอะ แต่ก็ควรจะมาสัก 7-8 โมง จะได้เริ่มปั่นเช้าๆอากาศสดชื่น
แผนที่เส้นทาง
https://goo.gl/maps/GCrR9
ยกจักรยานลงจากรถ จัดแจง set-up เปิด endomondo เรียบร้อย จูงเข้าไปถ่ายรูปในวัดสมานก่อน มีวัตถุมงคลใหญ่ๆโตๆสวยๆงามๆมากมาย ทั้งพุทธ พราห์ม อินเดีย จีน มีหมด แล้วออกจากวัดสมานปั่นวนซ้าย ผ่านร้านกุ้งแม่น้ำ หมายตาไว้ก่อนร้านไหนตัวใหญ่ๆไม่แพง เดี๋ยวตอนเที่ยงจะกลับมากิน^^ ข้ามสะพานไปจนถึง 4 แยกที่เป็นทางเลียบคลองชลประทาน(มีถนนอยู่ 2 ฝั่งคลอง) เลี้ยวซ้ายปั่นถนนบนตลิ่งคลอง ทางนี้จะผ่านค่ายมวยป.ประมุข ของพี่บัวขาวด้วยนะ ปั่นไปจนเกือบสุดทาง ดูป้ายวัดสาวชะโงกไว้
เลี้ยวขวามาตามป้ายจะเริ่มร่มรื่นหน่อย ผ่านเส้นทางคดเคี้ยว วัดสาวชะโงกจะอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง มีท่าน้ำ แวะพักชมวิวก่อนได้ แถวนี้จะเป็นชุมชนเล็กๆเก่าๆดูเงียบสงบ มีศาลเจ้าและโรงเจสถาปัตยกรรมจีนสวยๆ
แวะถ่ายรูปเล่นแถวนี้ ถัดไปจะเป็นเส้นทางผ่านสวนและบ่อกุ้ง สวยงามโดยเฉพาะสวนหมากที่ขุดเป็นท้องร่อง ปลูกว่านหางจรเข้แซม
ปั่นตามทางหลักไปเรื่อยๆจะถึงวัดใหม่บางคล้า หน้าวัดก็มีบ้านไม้เก่าๆคลาสสิคๆที่เหมาะกับ #ฮิปสเตอร์อย่างเรา จะถ่ายรูป แล้วก็เลาะสวนตามถนนเส้นหลักไปเรื่อย อยากถ่ายรูปวิวสวน วิวบ่อกุ้ง ตรงไหนก็จอดได้เลย รถไม่เยอะ จนจะเข้าเขตตัวอำเภอบางคล้า แวะเข้าชมวัดโพธิ์บางคล้าก่อน
วัดเก่าแก่สมัยพระเจ้าตาก ต้นไม้ใหญ่เยอะดี มีไก่เต็มเลย มีโบสถ์เก่าแก่เหลืออยู่ 1 แห่ง
เสร็จแล้วปั่นเข้าไปในตัวเมือง พยายามเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นที่ใกล้แม่น้ำที่สุด จะเห็นบ้านเรือนเก่าๆสวยดี ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองก็เป็นศาลเจ้าจีนสวยงาม
แถวนี้มีมะม่วงสดจากสวนมาวางขาย ถ้าจะกินเลยเขาไม่ขาย แม่ค้าบอกว่าให้ทิ้งไว้ 2 วันค่อยกินจะหวานอร่อย กินเลยมันเปรี้ยว โลนึงได้แค่ 2 ลูกครึ่ง เลยไปอีกนิดก็เป็นตลาดน้ำบางคล้าแล้ว ไม่ต้องนึกว่ามันจะเป็นตลาดโบราณร้อยปี มันเป็นเพียงตลาดที่อยู่บนแพเหล็กลอยน้ำ หาได้มีความโบราณอะไรไม่ ความโบราณอยู่ที่ชุมชนภายนอกมากกว่า ลงไปหาอาหารกินในแพ อาหารหลักที่นี่ก็เป็นปลาเผา กุ้ง หมึก น้ำมะพร้าว ฯลฯ ของ 90% จะเป็นอาหาร สามารถเข้าห้องน้ำได้ที่วัดหน้าแพ
กินกันอิ่มก็เดินทางต่อ ปั่นวนซ้ายไปตลาดน้ำโจ้โล้ที่เหมือนเขาเอาถังสีทองไปเทจากบนหลังคาราดลงมาให้โบสถ์ทั้งหลังเป็นสีทอง ทุกอย่างทองหมด แล้วก็ออกจากวัดวนซ้ายเป็นหมู่บ้านน้ำตาลสด หวานเจี๊ยบ ดื่มเพิ่มพลังปั่นได้
พอจะถึงสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ซ้ายมือจะเริ่มเห็นพระพิฆเนศสีดำยืนอยู่ เหมือนจะใกล้ แต่ปั่นเข้าไป 2 ก.ม. บรรยากาศเหมือนที่อินเดีย มีการเปิดเพลงอินเดียกล่อม หน้าลานมีตลาดขนาดย่อม เป็นสินค้าจากสวน น้ำมะพร้าวแช่เย็นห้ามพลาด ลูกละ 10 บาทเอง
ออกจากพระพิฆเนศทีนี้จะเป็นการลุยสวน จากที่ก่อนหน้านี้เป็นทางลาดยางล้วนๆ ตรงฝั่งตรงข้ามทางเข้าพระพิฆเนศ เป็นทางลูกรังที่กว้างประมาณ 1 เลน โรยด้วยหินกรวดก้อนใหญ่ๆ เข้าไปเลย ได้ลุ้นว่ายางจะรั่วหรือไม่^^ ลุยกลางสวนมะพร้าว มีหมา 3 ตัวจาก 1 บ้านในสวนมะพร้าวมาเห่าต้อนรับ ไปต้องกลัว มันเห่าเราหยุดปั่น หันหน้าสู้เข้าไว้ พอก้มลงหยิบหินทำท่าจะขว้างมันก็ถอย เราก็ปั่นไปเรื่อยๆตามแผนที่
เป็นทางลูกรังอยู่ 2-3 ก.ม. ก็เป็นลาดยางเรียบๆเหมือนเดิม เสียดายมาถึงตรงนี้ตอนเที่ยงๆเริ่มบ่ายกำลังร้อน ไม่งั้นเส้นทางนี้จะชิลมาก ทางจะพาเราไปออกเส้นใกล้ถึงวัดสมานอีกแค่ 2-3 ก.ม. ก็ปั่นผ่านเขื่อนบางปะกงไปหน้าวัดสมานตามเส้นที่เราขับรถมา
ก็ได้เวลาไปกินกุ้งแม่น้ำร้านที่หมายตาไว้ มีตั้งแต่โลละ 200 ขึ้นไปตามไซส์ของตัวกุ้ง ถ้าโลละ 350 บาท ก็จะได้ 14 ตัว กินกันหายอยาก แล้วก็เข้าวัดสมานไปที่จอดรถเป็นอันจบทริป ถึงตอนนี้จะเห็นรถยนต์เนืองแน่น จอดเลยออกมาจะถึงปากทางแล้ว
แผนที่เส้นทาง
https://goo.gl/maps/GCrR9
ยกจักรยานลงจากรถ จัดแจง set-up เปิด endomondo เรียบร้อย จูงเข้าไปถ่ายรูปในวัดสมานก่อน มีวัตถุมงคลใหญ่ๆโตๆสวยๆงามๆมากมาย ทั้งพุทธ พราห์ม อินเดีย จีน มีหมด แล้วออกจากวัดสมานปั่นวนซ้าย ผ่านร้านกุ้งแม่น้ำ หมายตาไว้ก่อนร้านไหนตัวใหญ่ๆไม่แพง เดี๋ยวตอนเที่ยงจะกลับมากิน^^ ข้ามสะพานไปจนถึง 4 แยกที่เป็นทางเลียบคลองชลประทาน(มีถนนอยู่ 2 ฝั่งคลอง) เลี้ยวซ้ายปั่นถนนบนตลิ่งคลอง ทางนี้จะผ่านค่ายมวยป.ประมุข ของพี่บัวขาวด้วยนะ ปั่นไปจนเกือบสุดทาง ดูป้ายวัดสาวชะโงกไว้
เลี้ยวขวามาตามป้ายจะเริ่มร่มรื่นหน่อย ผ่านเส้นทางคดเคี้ยว วัดสาวชะโงกจะอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง มีท่าน้ำ แวะพักชมวิวก่อนได้ แถวนี้จะเป็นชุมชนเล็กๆเก่าๆดูเงียบสงบ มีศาลเจ้าและโรงเจสถาปัตยกรรมจีนสวยๆ
แวะถ่ายรูปเล่นแถวนี้ ถัดไปจะเป็นเส้นทางผ่านสวนและบ่อกุ้ง สวยงามโดยเฉพาะสวนหมากที่ขุดเป็นท้องร่อง ปลูกว่านหางจรเข้แซม
ปั่นตามทางหลักไปเรื่อยๆจะถึงวัดใหม่บางคล้า หน้าวัดก็มีบ้านไม้เก่าๆคลาสสิคๆที่เหมาะกับ #ฮิปสเตอร์อย่างเรา จะถ่ายรูป แล้วก็เลาะสวนตามถนนเส้นหลักไปเรื่อย อยากถ่ายรูปวิวสวน วิวบ่อกุ้ง ตรงไหนก็จอดได้เลย รถไม่เยอะ จนจะเข้าเขตตัวอำเภอบางคล้า แวะเข้าชมวัดโพธิ์บางคล้าก่อน
วัดเก่าแก่สมัยพระเจ้าตาก ต้นไม้ใหญ่เยอะดี มีไก่เต็มเลย มีโบสถ์เก่าแก่เหลืออยู่ 1 แห่ง
เสร็จแล้วปั่นเข้าไปในตัวเมือง พยายามเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นที่ใกล้แม่น้ำที่สุด จะเห็นบ้านเรือนเก่าๆสวยดี ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองก็เป็นศาลเจ้าจีนสวยงาม
แถวนี้มีมะม่วงสดจากสวนมาวางขาย ถ้าจะกินเลยเขาไม่ขาย แม่ค้าบอกว่าให้ทิ้งไว้ 2 วันค่อยกินจะหวานอร่อย กินเลยมันเปรี้ยว โลนึงได้แค่ 2 ลูกครึ่ง เลยไปอีกนิดก็เป็นตลาดน้ำบางคล้าแล้ว ไม่ต้องนึกว่ามันจะเป็นตลาดโบราณร้อยปี มันเป็นเพียงตลาดที่อยู่บนแพเหล็กลอยน้ำ หาได้มีความโบราณอะไรไม่ ความโบราณอยู่ที่ชุมชนภายนอกมากกว่า ลงไปหาอาหารกินในแพ อาหารหลักที่นี่ก็เป็นปลาเผา กุ้ง หมึก น้ำมะพร้าว ฯลฯ ของ 90% จะเป็นอาหาร สามารถเข้าห้องน้ำได้ที่วัดหน้าแพ
กินกันอิ่มก็เดินทางต่อ ปั่นวนซ้ายไปตลาดน้ำโจ้โล้ที่เหมือนเขาเอาถังสีทองไปเทจากบนหลังคาราดลงมาให้โบสถ์ทั้งหลังเป็นสีทอง ทุกอย่างทองหมด แล้วก็ออกจากวัดวนซ้ายเป็นหมู่บ้านน้ำตาลสด หวานเจี๊ยบ ดื่มเพิ่มพลังปั่นได้
พอจะถึงสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ซ้ายมือจะเริ่มเห็นพระพิฆเนศสีดำยืนอยู่ เหมือนจะใกล้ แต่ปั่นเข้าไป 2 ก.ม. บรรยากาศเหมือนที่อินเดีย มีการเปิดเพลงอินเดียกล่อม หน้าลานมีตลาดขนาดย่อม เป็นสินค้าจากสวน น้ำมะพร้าวแช่เย็นห้ามพลาด ลูกละ 10 บาทเอง
ออกจากพระพิฆเนศทีนี้จะเป็นการลุยสวน จากที่ก่อนหน้านี้เป็นทางลาดยางล้วนๆ ตรงฝั่งตรงข้ามทางเข้าพระพิฆเนศ เป็นทางลูกรังที่กว้างประมาณ 1 เลน โรยด้วยหินกรวดก้อนใหญ่ๆ เข้าไปเลย ได้ลุ้นว่ายางจะรั่วหรือไม่^^ ลุยกลางสวนมะพร้าว มีหมา 3 ตัวจาก 1 บ้านในสวนมะพร้าวมาเห่าต้อนรับ ไปต้องกลัว มันเห่าเราหยุดปั่น หันหน้าสู้เข้าไว้ พอก้มลงหยิบหินทำท่าจะขว้างมันก็ถอย เราก็ปั่นไปเรื่อยๆตามแผนที่
เป็นทางลูกรังอยู่ 2-3 ก.ม. ก็เป็นลาดยางเรียบๆเหมือนเดิม เสียดายมาถึงตรงนี้ตอนเที่ยงๆเริ่มบ่ายกำลังร้อน ไม่งั้นเส้นทางนี้จะชิลมาก ทางจะพาเราไปออกเส้นใกล้ถึงวัดสมานอีกแค่ 2-3 ก.ม. ก็ปั่นผ่านเขื่อนบางปะกงไปหน้าวัดสมานตามเส้นที่เราขับรถมา
ก็ได้เวลาไปกินกุ้งแม่น้ำร้านที่หมายตาไว้ มีตั้งแต่โลละ 200 ขึ้นไปตามไซส์ของตัวกุ้ง ถ้าโลละ 350 บาท ก็จะได้ 14 ตัว กินกันหายอยาก แล้วก็เข้าวัดสมานไปที่จอดรถเป็นอันจบทริป ถึงตอนนี้จะเห็นรถยนต์เนืองแน่น จอดเลยออกมาจะถึงปากทางแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น