วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Sky Lane สนามปั่นจักรยานรอบสนามบินสุวรรณภูมิโฉมใหม่

หลังจากปิดปรับปรุงไปนาน ได้ฤกษ์เปิดอีกครั้งวันเสาร์ที่ 26 ธ.ค.58 เราลองมาดูกันว่าสนามปั่นจักรยานรอบสนามบินสุวรรณภูมิโฉมใหม่ ภายใต้ชื่อ Sky Lane มีอะไรกันบ้าง

การเดินทาง
ต้องขอบอกคนที่ยังไม่เคยไปก่อน ถ้าคุณอยุ่ไกลๆ ตั้งต้นไปสนามบินสุวรรณภูมิก่อน ซึ่งมีป้ายติดอยู่ทั่วเมือง

1.มาทาง Motor Way สมมุติขึ้นทางด่วนมาทางพระราม 9 ก็จะต่อเชื่อมมายัง Motor way พอถึงทางแยกซ้ายออกถนนร่มเกล้า เราก็เข้าช่องกลาง จะมีป้ายบอกว่าไปสุวรรณภูมิ เข้าช่องกลางแล้วชิดซ้าย เลี้ยวขวาไปตามป้ายประมาณ 1 กม. จะเจอป้ายเขียว "ศูนย์การขนส่งสาธารณะ" เลี้ยวซ้ายตามป้ายไปเจอสี่แยกไฟแดง ตรงไปสุดทางจะเป็นไปแดงตัว T เลี้ยวซ้ายไปกลับรถใต้สะพาน ก่อนถึงที่กลับรถก็จะเห็นทางเข้าสนามอยู่ฝั่งตรงข้าม ขวามือ

2.ทางลาดกระบัง ง่ายที่สุด มาจากตลาดหัวตะเข้ มีป้ายเขียวบอกทางเข้าสนามบินอยู่แล้ว ลงสะพานมาปุ๊บเจอแยกไฟแดงที่เลี้ยวซ้ายไปสุวรรณภูมิ (ถ้ามาจากอ่อนนุชก็เลี้ยวขวา) เลี้ยวซ้ายตามไป ขึ้นสะพาน ลงสะพานประมาณ 200 เมตรก็เจอทางเข้าอยู่ซ้ายมือเลย
แผนที่ https://goo.gl/maps/5TCra6J4H962 (ที่เขียนว่า Suvarnabhumi 4 Road)

3.ทางบางนา ตรงเข้ามาสุดทางถนนสุวรรณภูมิ 3 (ที่เขาชอบมาปั่นเลียบรันเวย์ตอนกลางคืน) ตรงไปถึง 4 แยกไฟแดง ที่มีปั๊มอยู่ขวามือ เลี้ยวขวา สุดทางเป็นไฟแดงตรงแยกตัว T เลี้ยวซ้ายไปกลับรถ
แผนที่แบบกราฟฟิค

Sky Lane โฉมใหม่
ท่านประธานเปิดโลโก้ใหม่ Sky Lane
ที่จอดรถกว้างขวาง
 จอดปุ๊บ เจอห้องน้ำก่อนเลย^^
ห้องน้ำใหญ่โต เข้าได้ทีละ 20 กว่าคน มีที่แขวนจักรยานข้างหน้า เป็นแบบชักโครก-กระดาษชำระ ไม่มีน้ำฉีด
น้องดาวก็มา ใสกิ๊งงง^^

แล้วก็ปั่นเข้าประตูชั้นที่ 1 เขามีแยกประตูไว้ 4 ประเภทเรียงจากซ้ายไปขวาคือ
1.คนที่มี snap แล้ว ชิดซ้าย เข้าไปเลย
2.ชาวต่างชาติ หรือคนที่ไม่มีบัตรประชาชน ก็เอา passport หรือเอกสารต่างๆ มาติดต่อเจ้าหน้าที่ขอ snap ที่นี่
3.คนที่ยังไม่มี snap ก็เอาบัตรประชาชนที่มี smart card มาเสียบที่เครื่องแจก snap ที่ประตูนี้
4.บัตรประชาชนรุ่นเก่า หรือเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี ติดต่อที่นี่ มีเจ้าหน้าที่ รับรองได้เข้าแน่

ใครทำ snap หาย หรือไม่ได้เอามา ก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ตรงประตู รับรอง เข้าได้ทุกคน
มีตู้รับ snap ประจำการหลายตู้
งานแบบนี้ ต้องมีหวานๆ^^
ก่อนจะเข้าสนามเรามาดูกฎกันนิดนึง

กฎข้อบังคับการใช้ Sky Lane

  • ต้องสวมหมวกกันน็อค (อีกหน่อยจะมีขายข้างหน้า)
  • ห้ามใส่รองเท้าแตะ เดี๋ยวหลุด เป็นอันตราย
  • ต้องมีอายุ 7 ปีขึ้นไป จึงจะเข้าสู่ลู่ปั่น 23.5 กิโลเมตรได้ (ต่ำกว่า 7 ปี ติดต่อหน้าประตู)
  • ห้ามพกพาอาวุธ แต่ก็ไม่ได้ตรวจอะไรพิเศษ
  • ต้องมี Snap ไม่งั้นก็เปิดประตูไม่ได้^^

ประตูชั้นที่ 2 ต้องมี snap เท่านั้นจึงจะเข้าได้ มี 5 ช่อง มีเซ็นเซอร์แปะไว้ทั้งซ้ายขวา เผื่อใครถนัดข้างไหนก็แปะข้างนั้น
เข้าไปแล้วเลี้ยวซ้าย ปั่นวนซ้าย พื้นยางมะตอยสีฟ้าสดใส ไร้รอยแตก แต่ความเรียบก็พอๆกับของเดิม
ที่เหมือนเดิมคือ ปั่นเร็วชิดขวา ปั่นช้าชิดซ้าย
มีป้ายบอกตลอดทาง
ห้องน้ำใหญ่โต ไม่ใช่ตู้ปลดทุกข์อีกต่อไป ใช้เป็นที่พักหลบแดดได้เลย
ในคู่มือตอนรับ snap บอกว่าไม่ควรปั่นเกิน 25 แต่ในสนามจำกัดความเร็วที่ 40
มีเสาไฟตลอดทางช่วยให้จักรยานที่ไม่มีสแตนจอดถ่ายรูปได้สะดวก^^
ช่วงนี้เป็นทางเข้าออกเก่าของชาวบ้าน ก็ยังคงให้เดินเข้าออกได้อยู่
ได้ถ่ายรูปกับเครื่องบินกันอีกแล้ว
ปั่นคู่กันด้านซ้าย ด้านขวาก็ยังเหลือที่ให้แซง

ตอนไปทดสอบนี่เข้าไปปั่นตอนเย็น 16.30 น. เริ่มถึงก็โต้ลมเลย ปั่นไปกิโลเดียวก็เลี้ยวซ้าย โต้ลมเบาลงหน่อย ก่อนจะถึงอีกโค้งหนึ่ง จึงจะเป็นตามลม เร่งได้เต็มที่ ขึ้น 40 ได้เลย พอโค้งที่ 3 ก็เริ่มต้านลมนิดหน่อย ปั่นช้าๆดูเครื่องบนลง หลังโค้งสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัยนี่โต้ลมสุดๆ 5 กม.สุดท้าย จากที่ว่าจะปั่น 2 รอบนี่มีถอดใจ^^

กลับมาใหม่ ไฉไลกว่าเดิม ปั่นเรียงได้ 4 คัน แซงกันไม่น่ามีปัญหา แต่ปั่นชิดซ้ายไว้ก่อนแหละดี

ขณะนี้ศูนย์บริการหน้าสนามกำลังก่อสร้างอยู่ ยังไม่เสร็จ ถ้าเสร็จแล้วเราก็จะได้ใช้ snap เติมเงิน ซื้ออาหารกินจากที่นี่ได้เลย ติดตามอัพเดทและข้อมูลอื่นๆได้ที่ http://bike.scb/

คำถามที่เจอบ่อย

1.ถ้าลืมเอา Snap มา จะเข้าสนามได้ไหม
ตอบ เข้าได้ แค่ไปลงชื่อในสมุด(ด้านซ้ายสุดของทางเข้าที่คนอื่นกำลังแตะ snap กัน)

2.ขาออกล่ะ ไม่มี snap จะออกยังไง
ตอบ ไปบอกเจ้าหน้าที่ที่ประตูออก เขาจะเปิดให้ออกแต่โดยดี

3.เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปีเข้าได้ไหม
ตอบ ได้ ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ตรงทางเข้า ช่องด้านขวาสุด

วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ความสูงของยอดดอยและความชันของภูเขาที่ปั่นขึ้นไปได้

ลองมาดูความสูง ความชัน และระยะทางกว่าจะถึงยอด ของดอยและภูเขาในประเทศไทยที่นักปั่นนิยมปั่นขึ้นไปกัน ไม่ว่าจะเป็น เจ็ดคต อุโมงค์ต้นไม้ เขาใหญ่ ดอยสุเทพ หรือยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทยอย่างดอยอินทนนท์

ความสูงภูเขาในประเทศไทย

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Turbo HydeRace จักรยานไฮบริดสัญชาติไทย รุ่นใหม่ ไม่ธรรมดา

เดี๋ยวนี้ Turbo ไม่ได้มีแต่จักรยานแม่บ้านถูกๆขายอยู่ตาม Big C Lotus นะ มีจักรยานคุณภาพดีๆ ราคาเกือบๆหมื่นขายอยู่หลายรุ่นเหมือนกัน วันนี้คันที่เราเอามาทดสอบ เป็นจักรยานไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุด เพิ่งวางตลาดเดือนนี้เอง

รูปทรงดูดีใช้ได้ คันนี้เป็นไซส์ L หรือ 52 โดยมีอีกไซส์เล็กกว่านี้ให้เลือกคือ 49 สำหรับไซส์ 52 นี้ น่าจะเหมาะกับคนที่สูง 175 ขึ้นไป ถ้าเตี้ยกว่านี้ควรเลือกไซส์ 49 เพราะคานบนอยู่สูงพอสมควร ให้อารมณ์เหมือนปั่นทัวริ่ง อานนุ่มดี ใส่กางเกมธรรมดาไม่มีเป้าเจลก็ปั่นได้ไม่เจ็บก้น กระเป๋าใต้อานในรูปนี่ซื้อมาติดเองนะ เอาไว้ใส่เครื่องมือที่ Turbo ให้มาด้วย เป็นประแจแบนแบบรวมหลายขนาด 1 อัน และ 6 เหลี่ยมอีก 2 ขนาด
 เบรค์ใช้วีเบรคธรรมดา ข้อดีคือปรับตั้งดูแลรักษาง่าย รอยเชื่อมที่ตัวเฟรมเป็นเกร็ดปลาที่ละเอียดดี บ่งบอกถึงความชำนาญการในการทำเฟรมจักรยานของ Turbo เฟรมเป็นอลูมีเนียม 6061 ด้วย เกรดเดียวกับจักรยานแบรนด์นอกรุ่นกลางๆใช้กัน
 ดุมล้อยี่ห้อ Quando เป็นแบบปลดเร็วทั้งหน้าหลัง ก็ลื่นดี ตะเกียบหน้าเป็นอลูมีเนียมทรง 3 เหลี่ยมขอบมน แข็งแรงกว่าทรงกลม
 ตีนผีเป็น Shimano Altus ดีกว่า Tourney นิดหน่อย แต่ก็ยังถือเป็นรุ่นเริ่มต้น มีเหล็กันตีนผีมาให้ด้วย เขามีป้ายบอกว่าเวลาใช้ให้ถอดออก แต่ผมติดไว้อย่างนี้แหละ เป็นกันชน ตีนผีจะได้ไม่พังเวลาขนใส่รถ
 เฟืองหน้า 3 หลัง 8 สับจานหน้าเป็น Shimano SIS-Index ธรรมดา เกียร์เป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างที่เทอร์โบไม่ทำเอง ส่วนใหญ่จะทำเองหมด ไม่ว่าจะเป็นเฟรม ตะเกียบ หลักอาน อาน แฮนด์ สเต็ม ล้อ

 บันได Wellgo ชุดจาน Prowheel Swift เฟืองขนาด 48-38-28 ซึ่ เขาเซ็ตรถมาดีนะ ตั้งแต่รับรถมาก็ไม่ได้ทำอะไรเลย เติมลม ปรับความสูงเบาะ ก็เอาไปปั่น Bike For Mom เลย

Shifter หรือมือเกียร์ เป็นแบบรวมเบรค คือคันเปลี่ยนเกียร์กับมือเบรคจะอยู่ติดกันในอุปกรณ์ชิ้นเดียวกัน เปลี่ยนเกียร์ใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้ง กระดิ่งนี่ซื้อมาใส่เองนะ ไม่มีแถม

ที่ชอบอีกอย่างคือ แถมขาตั้งมาให้เลย^^ ถ้าซื้อเองอย่างต่ำก็ 250 บาทแล้ว

ถ้วยคอยี่ห้อ Neco สเต็มของ Turbo ผลิดเอง ยาว 90mm เห็นฟ้าๆที่ห้อยอยู่ตรงแฮนด์คือแท็ก Bike For Mom ยังไม่ได้ถอด ที่เห็นเป็นหยดน้ำนี่คือตอนถ่ายฝนตกปรอยๆ ไม่ใช่เม็ดสีนะ^^

ล้อขอบสูงอลูมีเนียม ซี่ลวดก็อลูมีเนียม ไม่ต้องกลัวสนิม แถมยังใจดี แถมตัวแปลงจุ๊บเล็กมาให้ด้วย ให้เราสูบลมได้ง่ายขึ้น^^ ยางขนาด 700x32c ขนาดกำลังดีสำหรับปั่นทางไกล

การใช้งานโดยรวมก็ปั่นลื่นดี เอาไปปั่น 50 กม.รวดเดียวจบก็ไม่มีปัญหาอะไร องศาในการนั่งก็ไม่เมื่อยหลัง เป็น city bike อารมณ์ทัวริ่ง ปั่นเนิบๆนานๆได้โดยไม่เมื่อย

ตัวเปรียบเทียบที่ใกล้เคียงก็ประมาณ Fuji Pallete หรือ Tiger Pedal กับราคาตั้งอยู่ที่ 9,xxx บาท (ลดได้อีก) ก็ถือว่าไม่เลวสำหรับใครที่ชอบของไทย ดีตรงทุกอย่างเป็นอลูมีเนียม น้ำหนักทั้งคันเพียง 12.17 ก.ก. มี 3 สีให้เลือก คือดำแบบนี้ ขาว และเทา คุณภาพถือว่าผ่าน ถ้าตั้งราคาเท่า Tiger Pedal นะ รับรองขายกระฉูด^^

ขอขอบคุณ
สถานที่ถ่ายทำ: บ้านเพลงรีสอร์ท กาญจนบุรี

วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ไปตลาดคลองสวนร้อยปี จากหนองจอก ไม่ออกถนนใหญ่ (76 กม.)

ถ้าตัดแดดที่ร้อนระอุออกไป ทริปนี้จะเป็นทริปที่ชิลมาก เพราะเส้นทางสวยงาม จุดหมายปลายทางน่าสนใจ และไม่ไกลเกินไปสำหรับมือใหม่ ตามแผนที่ไปเลย https://goo.gl/maps/IgJSy ไปเส้นใกล้ก่อนนะ


นัดเจอกันที่สวนสาธารณะหนองจอก (search ใน google maps ได้) ใครบ้านไกลก็เอาจักรยานใส่รถมา มีที่จอดรถเหลือให้จอดได้สัก 10 คัน จอดได้ถึงค่ำๆ สวนปิดประมาณ 19.30 น. ถ้าเต็มก็ไปจอดในโรงพยาบาลฝั่งตรงข้าม แต่สวนใหญ่จะปั่นมาจากบ้านกัน

ถึงเวลาล้อหมุน 8.00 น. เช็คชื่อคนที่ยืนยันแล้วยังมี 1 คนขับรถหลงไปหลงมาเนื่องจากไม่ค่อยได้มาหนองจอก เลยรอแป๊บ แล้วถ่ายรูปพอเป็นพิธีก็ออกเดินทางกันเลย


กลับรถหน้าโรงพยาบาล ผ่านสี่แยกไฟแดงปั่นขึ้นสะพานสูงๆยืดเส้นยืดสาย ช่วงแรกจะเป็นถนนรถเยอะหน่อย(ถนนสังฆสันติสุข) พอถึงสนามกอล์ฟเดอะไพน์ก็เลี้ยวซ้ายแล้วเข้าซอยตรงข้ามวัดบึงทองหลาง(ซอยศาลาแดง 10) ทีนี้ก็แทบจะไม่มีรถเลย เข้าชุมชนชาวนา จะมีวิถีชีวิตชาวนาทุกรูปแบบให้ได้ชม บ้างก็กำลังไถนา บ้างกำลังเกี่ยวข้าว เพราะแถวนี้เขาทำนาไม่พร้อมกัน เพื่อแบ่งๆกันใช้น้ำ ไม่เหมือนแถวภาคใต้ที่ทำนาปีละครั้ง ตามฤดูกาล ที่นี่ทำนากันทั้งปี แปลงนึงได้ 2-3 ครั้งต่อปี ใครใคร่จอดถ่ายรูปก็ตามสบาย เดี๋ยวไปรอแยกหน้า เพราะว่าไม่ค่อยมีใครรู้เส้นทาง ยังในก็ต้องรอผู้นำทริป^^


ตรงไปเรื่อยๆถึงถนนที่ตัดผ่านถนนใหญ่ ดูรถให้ดีแล้วก็ปั่นข้ามไปอีกฝั่ง(ซอยศาลาแดง 9) ชุมชนชาวนาอีกเช่นกัน ไปเรื่อยๆผ่านคุ้มหลวงแพ่งรีสอร์ทก็เลี้ยวขวา ข้ามสะพานข้ามคลองแสนแสบ ตรงไปออกถนนสุวินทวงศ์ ไปกลับรถใต้สะพานแล้วเลี้ยวซ้ายไปถนนเลียบคลองเจ้า ทีนี้ก็ตรงยาวเลย จนเจอวัดอยู่ขวามือซ้ายมือจะเป็นสะพานสูงๆข้ามคลองเจ้า ก็ข้ามไป


ช่วงนี้ทางจะคดเคี้ยวหน่อย ตรงไปถึงแยกตัว T เลี้ยวซ้ายก่อน แล้วเลี้ยวขวาตามถนนไป ผ่านหน้าสถานที่อะไรสักแห่งกำลังก่อสร้าง เป็นโดมสีขาวเห็นแต่ไกล ตรงไปถึงแยกตัว T อีกครั้งเป็นถนนใหญ่มีรถบรรทุกเยอะ แต่เราใช้เส้นนี้แค่ 2-3 กม. เลี้ยวขวาไปตามถนนใหญ่ ข้ามทางรถไฟ ไปจนถึงโกดัง Big C แล้วเข้าซอยติดกับ Big C ทีนี้ก็ตรงไปอย่างเดียวถึงตลาดคลองสวนเลย


วิวสองข้างทางทุ่งนากำลังเขียวขจี สุดทางเป็นตัว T เลี้ยวขวาเข้าชุมชนมัสยิดหน้าตลาด ระยะทางขาไปประมาณ 42 กม. เยอะกว่าที่ google maps บอก ปั่นเข้าไปจอดในมัสยิด แล้วเดินขึ้นสะพานไม้คลาสสิคๆเข้าไปหาของกินในตลาดคลองสวน


เดินชมตลาด กินข้าว และพักเหนื่อยสักชั่วโมงครึ่งก็ได้เวลากลับ ขากลับเราใช้เส้นทางใหม่ไม่ซ้ำกับขามา เพื่อจะได้ชมวิวไม่ซ้ำ ตรงตัว T สุดท้ายก่อนเลี้ยวเข้ามัสยิด เราตรงไปตามทางปูนเรื่อยๆ สุดทางเป็นรูปตัว T เลี้ยวขวาไปนิดเดียว 20 เมตรแล้วเลี้ยวซ้าย เข้าถนนลาดยางใหญ่ๆหน่อยแต่ไม่ค่อยมีรถ ข้ามทางรถไฟตรงไปมุ่งไปทางวัดหนามแดง พอใกล้ๆจะเริ่มเห็นหลังคาโบสถ์ทางขวามือ วัดนี้ใหญ่พอสมควร มีพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่


เลี้ยวซ้ายผ่านหน้าพระสังกัจจายน์ไป ข้ามสะพานแล้วเลี้ยวขวา ตรงไปออกถนนสุวินทวงศ์ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุวินทวงศ์ไปกลับรถตรง 3 แยกไฟแดงตลาดปองพล กลับรถมาสัก 100 เมตรเข้าซอยซ้ายมือที่มีป้ายแทนคุณรีสอร์ท ข้ามสะพานข้ามคลองแสนแสบเลี้ยวซ้ายเข้า(ศาลาแดง 7)เส้นที่จะไปต่อกับเส้นเดียวกับที่เรามาแต่เป็นช่วงไกลหน่อย ตรงไปเรื่อยๆ(ศาลาแดง 8)จะเห็นป้ายให้เลี้ยวไปคุ้มหลวงแพ่งรีสอร์ท เราก็เลี้ยวกลับทางเดิมแล้ว


เพื่อจะได้กลับไวขึ้น เลี้ยวซ้ายเข้าวัดคลองหลวงแพ่ง ข้ามสะพาน(ปลาตรงสะพานเยอะมาก)แล้วเลี้ยวขวาถือสี่แยกวัดใจ ไม่มีไปแดง ดูซ้ายดูขวาให้ดี แล้วตรงไป(ถนนสังฆสันติสุข) ปั่นชิดซ้ายตรงอย่างเดียวผ่านหน้าสนามกอล์ฟ แล้วก็ตรงอย่างเดียวจนถึงสวนหนองจอกที่เราจอดรถไว้เลย

คำแนะนำ

  1. แดดร้อนมาก เตรียมอุปกรณ์กันแดดให้พร้อม หมวก ปลอกแขน กระติกน้ำ ดื่มน้ำเยอะๆ
  2. ต้องเตรียมยางในสำรองไปด้วย เพราะถึงทางจะเรียบประมาณ 95% แต่ก็อาจจะมีวัตถุไม่พึงประสงค์อยู่บนถนนได้ ทริปนี้มียางแตก 1 คัน
  3. ค่อยๆปั่น ค่อยๆไป อย่ารีบ ชมวิวสองข้างทางไป ถ่ายรูปเยอะๆ เพราะไม่รู้เมื่อไหร่จะผ่านเส้นทางนี้อีก
ดูรูปจากทริปทั้งหมดได้ที่ https://www.facebook.com/events/1472461556407668/